ที่มาที่ไปของน้ำผึ้ง
ใครรู้บ้างว่า น้ำผึ้งนั้นมีต้นกำเนิดจากอะไร? น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานจากธรรมชาติที่เกิดจากการที่ผึ้งนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่ผึ้งบินไปตอมมาผ่านกระบวนการตามธรรมชาติแล้วเก็บสะสมไว้ในรังผึ้ง เพื่อแปลงมาเป็นน้ำผึ้งที่เราทานกันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งความต่างของน้ำผึ้งแต่ละชนิดที่ได้มานั้นขึ้นอยู่กับชนิดของพืชหรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งตอม รวมถึงสภาพแวดล้อมใกล้เคียงและบริเวณที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ และนี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่ว่าทำไมน้ำผึ้งแต่ละชนิดจึงมีความอุดมสมบูรณ์ และรสชาติ รวมถึงแร่ธาตุ สารอาหารที่แตกต่างกันออกไป
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า น้ำผึ้ง เป็นผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารชนิดต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยคุณค่าทางโภชนาการของน้ำผึ้ง มีแหล่งของน้ำตาลกลูโคสและฟรุกโตส ซึ่งเป็นสารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายสำหรับผู้ที่อ่อนล้า หมดแรงจากการทำงานหนัก และเป็นแหล่งวิตามินมากมาย ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายอยู่ในน้ำผึ้ง มีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างกระดูก และยังมีธาตุเหล็กที่เป็นประโยชน์ต่อระบบไหลเวียนเลือดอีกด้วย
แล้ว “น้ำผึ้งดอกลำไย – น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ – น้ำผึ้งดอกไม้ป่า” ต่างกันอย่างไร?
สำหรับสาวกน้ำผึ้งคนไหนที่ยังไม่แน่ใจ หรือกำลังเลือกซื้อน้ำผึ้งขวดใหม่เข้าบ้านกันอยู่ล่ะก็ วันนี้เราจะพามาดูระหว่างน้ำผึ้งดอกลำไย – น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ – น้ำผึ้งดอกไม้ป่า น้ำผึ้งชนิดไหนหรือรสชาติไหนที่ลงตัวกับคุณมากที่สุด มาเริ่มกันที่..
น้ำผึ้งดอกลำไย — ที่ 1 ในใจใครหลายคน
จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า น้ำผึ้งดอกลำไยถือเป็นน้ำผึ้งที่มีรสชาติและกลิ่นดีที่สุดในประเทศไทย และหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดหรือซุปเปอร์มาเก็ต น้ำผึ้งชนิดนี้มีสีค่อนข้างเข้ม แต่จะไม่เปลี่ยนสีและไม่ตกผลึกเหมือนเทียบกับน้ำผึ้งดอกไม้ป่า เพราะน้ำผึ้งดอกไม้ป่ามีความชื้นเพียงแค่ 18%
น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ — ของโปรดสำหรับสายหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ
เพื่อให้ได้น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ที่สดใหม่ หอมอร่อย อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร มักจะต้องอาศัยช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยว แต่ก็ไม่ได้ทำให้น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่หาทานยาก เพราะปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งได้พัฒนาการเก็บเกี่ยวให้สามารถหาทานน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ได้ตลอดทั้งปี สำหรับลักษณะเด่นของน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ก็คือ จะมีรสชาติหวานแหลม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีความหอมหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ มีสีเหลืองอำพัน เก็บไว้นานสีก็จะไม่เปลี่ยน แต่จะตกผลึกเมื่ออากาศเย็น หรือเมื่อใส่ไว้ในตู้เย็นเช่นเดียวกับน้ำผึ้งดอกไม้ป่านั่นเอง
น้ำผึ้งดอกไม้ป่า — ให้ความรู้สึกหอมเย็นจากดอกไม้ป่านานาชนิด
การจะได้มาซึ่ง น้ำผึ้งดอกไม้ป่า เป็นที่รู้โดยทั่วกับในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งว่า ส่วนใหญ่จะพบมากในภาคเหนือ และมักจะเก็บเกี่ยวกันในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม – มกราคม ของทุกปี ช่วงเก็บใหม่จะมีสีเหลืองออกสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งได้มาจากดอกไม้หลากหลายชนิดตามป่า หากเก็บไว้ระยะเวลานาน จะมีสีเข้มขึ้นตามวันเวลาที่เก็บ น้ำผึ้งดอกไม้ป่าจะมีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ และจะตกผลึกเวลาอากาศเย็น เนื่องจากมีความชื้นเพียงแค่ 18% และมีลักษณะคล้ายกับเนย หลายคนจึงมักเรียกน้ำผึ้งดอกไม้ป่าในอีกชื่อหนึ่งว่า “บัตเตอร์ฮันนี่”
นอกจากนี้น้ำผึ้งดอกไม้ป่ายังมีรสชาติหวาน หอม สดชื่นจากธรรมชาติแม้ใครหลายคนอาจจะบอกว่ายังไม่เท่ากับน้ำผึ้งดอกลำไยก็ตาม แต่มั่นใจได้ว่าคุณค่าทางโภชนาการที่ได้รับไม่แพ้กันแน่นอน ถ้าใครรู้ตัวว่าไม่ได้ทานน้ำผึ้งเป็นประจำและกลัวว่าสีของน้ำผึ้งจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา น้ำผึ้งดอกไม้ป่าก็อาจจะยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ
สุดท้ายนี้การตัดสินใจว่าจะเลือกทานน้ำผึ้งรสชาติหรือชนิดไหนนั้น ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคล หากใครที่อ่านแล้วยังคงชั่งใจหรือตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ลองหาซื้อน้ำผึ้งขนาดทดลองหรือแบบขวดบีบ เพื่อลองทานดูว่ารสชาติไหนกันแน่ที่ถูกใจคุณมากที่สุด สนใจติดต่อสั่งซื้อน้ำผึ้งได้ที่ สุภาฟาร์มผึ้ง Facebook: m.me/suphabeefarm หรือ Line: https://lin.ee/sV9HBsb